ตะลอนโตเกียว : วันแรกเที่ยวอาซาคุสะ สถานีโตเกียว โตเกียวสกายทรี ในวันฝนพรำ

ตะลอนโตเกียว : วันแรกเที่ยวอาซาคุสะ สถานีโตเกียว โตเกียวสกายทรี ในวันฝนพรำ

ป๊าดดดด บล๊อกที่แล้วแหม่ม แนะนำการซื้อแพ็คเกจตั๋วรถไฟ Keisei Skyliner บวกกับ Tokyo Subway บล็อกนี้ก็มาเที่ยวต่อ หลังจากที่ไปหาโรงแรมแล้วเพื่อดรอปกระเป๋าไว้  แล้วไปเที่ยวต่อเลยค่ะ การเดินทางเราใช้บัตรเบ่งขึ้นสาย Hibiya Line จากอุเอโนะไปลงสถานี Minami-Senju(H20) ให้ออกทางประตู South Gate เดินข้ามสะพาน ตรงไปเรื่อยๆ โรงแรมหาไม่ยากเลยค่ะ

ถึงแล้วค่ะ โรงแรมพาเลซ เจแปน ดูจากเวป ก็ถือว่าเดินทางสะดวก ห้องสะอาดสะอ้านดีนะคะ พอไปเจอโรงแรมจริง ก็เหมือนในรูปเลยค่ะ จากนั้นก็ทำการ check in ยื่นใบจองพร้อม passport ค่ะ พนักงานที่นี่น่ารัก แนะนำดี มีแนะะนำการเข้าพักเวลาเช็กเอาท์ เวลาปิดประตู หากมาหลังเที่ยงคืนให้เข้าทางประตูด้านข้างโดยใช้กุญแจห้องของเราไขเข้าไป สนใจอ่านข้อมูลโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ Palace Japan Hotel ที่พักราคาถูก สงบใจกลางเมือง  และ ติดตามอ่าน ทั้ง 50 รีวิว ได้ที่ www.japan50.com/2014/50-hotels-in-tokyo/

อย่างที่บอกไว้ตอนแรกดรอปกระเป๋าเสร็จก็ไปเที่ยวย่านอาซาคุสะต่อ จากที่โรงแรมไม่ไกลจากวัดเซ็นโซจิ (Sensoji) วัดที่มีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์อยู่ย่านอาซาคุซะ (Asakusa) หรือบางคนก็เรียกวัดนี้ว่าวัดอาซาคุซะ ศาลเจ้าอาซากุสะ และมองเห็นโตเกียวสกายทรี แ่ต่เรามีบัตรเบ่งค่ะ จะเดินทำไม อิอิ วิธีการเดินทางอธิบายไว้ใต้รูปเลยนะคะ

ถึงแล้วค่ะ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji) จะพาเดินไปทีละประตูนะคะ เริ่มจากประตู Kaminarimon หรือ Thunder Gateประตูสายฟ้า เป็นประตูทางเข้าวัด แหม่มเดินเลี่ยงถนนนากามิเซะ (Nakamise dori) ที่มีร้านค้าเยอะๆ เดินต่อไปที่ซุ้มประตูโฮโซมอน (Hozomon) ที่ประตูนี้นอกจากจะมีโคมไฟสีแดง และยักษ์เฝ้าประตูแล้ว ยังมีโคมไฟสีทองอีก 2 โคม และสุดท้ายก็ถึงวัดเซ็นโซจิ

เที่ยวเพลินก็เริ่มหิวแล้วค่ะ หันซ้ายหันขวา เลยเลือกร้าน San Sada เป็นร้านเทมปุระเก่าแก่มากในย่านอาซาคุสะเลยค่ะ หากไม่ยากค่ะ แค่เดินมาที่ประตู Kaminarimon หรือ Thunder Gate ประตูสายฟ้า หันหน้าเข้าโคมไฟสีแดง ให้เลี้ยงขวามาค่ะ เดินมาประมาณ 20 เมตร ร้าน San Sada เดินเข้าไปเลยค่ะ ที่น่าทึงมีเมนูเป็นภาษาไทยด้วย แสดงว่าคนไทยมาเยอะมาก

ฝนยังคงตกอยู่ ก็เลยไปเที่ยวที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวย่านอาซาคุสะ Asakusa Culture Tourist Information Center เป็นอาคารที่สร้างใหม่เป็นตึก 8 ชั้น รูปทรงแปลกตา ด้านบนชั้น 8 จะเป็นจุดชมวิว สามารถขึ้นไปชมฟรี แล้วอยู่ตรงไหนของอาซาคุสะนะเหรอ อันนี้ต้องหันหลังให้ประตู Kaminarimon หรือ Thunder Gate ประตูสายฟ้า แล้วมองเยื้องมาทางซ้ายหน่อยค่ะ เมื่อเห็นแล้วเดินข้ามทางม้าลายเข้าไปเลยค่ะ ต้องขอบคุณน้อง Katto @Redlovetree นะคะ ที่แนะนำที่นี่ วิวด้านบนสวยงามมาก ได้วิวมุมสูงใหม่เลยค่ะ

ฮือๆ ฝนยังไม่หยุดตกเลย แต่ก็เที่ยวต่อค่ะ ลงไปที่สะพาน Kototoibashi Bridge สะพานสีแดง ที่ข้ามไปตึกอาซาฮี เลยแวะถ่ายรูปโตเกียวสกายทรีในวันฝนตกสักหน่อย

เริ่มค่ำแล้วค่ะ มุดลงดินใต้ดินต่อดีกว่า ไปเที่ยวในสถานีโตเกียวกัน ฝนก็เริ่มซากันบ้างแล้ว ขนาดฝนตกก็ยังเที่ยวได้ ๕๕๕ ที่นี่มีทั้งที่กินดื่ม ที่ช้อปปิ้ง ระวังเดินหลงนะคะ ต้องพยายามจำประตูออกให้ดีๆ ที่นี่แหม่มไปเจองาน ชินกังเซนฉลองครบ 50 ปี ด้วยค่ะ ร้านอาหารไทย  ที่ชอบมากที่สุดคือการถ่ายรูปหน้าสถานีโตเกียว มุมไหน ออกประตูไหน จะไม่ได้แล้วค่ะ ไปชมภาพต่อดีกว่าค่ะ

ที่เที่ยวสุดท้ายในค่ำคืนนี้ จากสถานีโตเกียวไปต่อที่โตเกียวสกายทรีค่ะ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน Hanzamon Line สายสีม่วงนั่งไปสุดสายลงที่สถานี Oshiage Skytree (Z14) เสียดายค่ะไปถึงใกล้เวลาปิดแล้ว เลยได้แค่เดินถ่ายรูปเล่น

เที่ยวจนเหนื่อยก็เริ่มหิวอีกแล้ว ฝนก็ยังตกต่อเนื่องไม่ขาดสาย เจอร้านราเมงเลยเดินเข้าไปเลยค่ะ อ่านชื่อร้านไม่ออกนะคะ แต่ดูจากน้ำซุปจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูค่ะ แล้วจะมารีวิวนะคะ ขอสั่งทานก่อน

วันแรกในโตเกียวแม้จะเจอฝนเกือบทั้งวันเพราะเจอพายุเข้าในช่วงบ่าย พอลงเครื่องที่นาริตะเสร็จก็ไปโรงแรม จากนั้นก็เที่ยวเลย ขอบอกว่าทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย เที่ยวได้เยอะเลย บัตรเบ่งก็เริ่ดคุ้มสุดๆ สำหรับวันแรก กลับถึงโรงแรมดึกแต่ก็ก่อนประตูหลักโรงแรมปิด รีบอาบน้ำเพื่อวางแผนเที่ยวในวันต่อไป พรุ่งนี้เพื่อนๆ มาสมทบอีกกลุ่มนึง คงจะสนุกน่าดู สวัสดีโตเกียวแล้วเจอกันวันที่สอง ^__^