G Shock Custom Design เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน GSC THAILAND Presented by Todd Piti
G Shock Custom Design เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน GSC THAILAND Presented by Todd Piti โดยคุณปิติ ภิรมย์ภักดี G-Shock Collector อันดับ 1 ในไทย ได้เปิดตัวนาฬิกา G-Shock รุ่น Custom ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ผลิตแค่ 100 ชุด จำนวน 300 เรือนเท่านั้น ซึ่งประสบความสำเร็จมากมายกับกิจกรรมการรวมตัวครั้งใหญ่ของนักสะสม G-Shock เมืองไทย ที่สนุกครึกครื้นสำหรับนักสะสม G-Shock เห็นได้จากรอยยิ้มแห่งความสุขของผู้ที่มาร่วมงานอย่างล้นหลาม เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา
G Shock Custom Design 3 รุ่นพิเศษ
GSC [G-Shock Collectors] Thailand ก่อนที่จะไปชมบรรยากาศของงาน ขอกล่าวถึงพระเอกของงานในค่ำคืนนี้ที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ที่มาของ G Shock Custom Design 3 ดีไซน์ 3 รุ่นพิเศษ” จากสิงห์ ออกแบบมาเล่าเรื่องราวความเป็นมาของสิงห์ได้ชัดเจน ซึ่งแต่ละดีไซน์จะมีความเป็นไทยมาก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นาฬิการุ่นนี้ สุดยอดมากควรค่าแก่การสะสม เพราะเซตนี้คุณต๊อดตั้งใจทำมากๆ เห็นได้จากการดีไซน์มีลายสวยงามโดดเด่นมาก เห็นแล้วอยากได้เป็นเจ้าของแต่เสียดายจองหรือประมูลไม่ได้เลยค่ะ แอบอิจฉาคนที่ได้ครอบครองนาฬิการุ่นนี้เพราะคงไม่มีผลิตอีกแล้ว งั้นไปชมกันค่ะว่าที่มาของดีไซน์แต่ละเรือนมาได้อย่างไร ขอเริ่มจาก
เรือนสีขาว – หนุมานคาบศร
ไม่มีที่มาที่เด่นชัดว่าทำไมถึงใช้หนุมานคาบศรเป็นตราบริษัทฯ จึงจินตนาการเองว่า หนุมานเป็นเทพลิงที่มีฤทธิ์ ตัวละครเอกตัวนึงในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นทหารของพระราม หนุมานถือว่าเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย มีบุคลิกที่เป็นชายชาตรีมากด้วยเสน่ห์ พระยาภิรมย์ภักดี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2415 ตรงกับปีวอก จึงถือเคารพเทพหนุมาน เปรียบเสมือนลูกสมุนลิงที่มีหนุมานนำทัพ
ศรนั้นหมายถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า หมายถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมี 3 ศร แสดงอยู่ในพระราชลัญจกร (ผู้ทรงมีพระบารมีต่อพระยาภิรมย์ภักดี) ตอนที่รัฐบาลประกาศสร้างสะพานพุทธ เมื่อปี พ.ศ. 2472 พระยาภิรมย์ภักดีเล็งเห็นว่าจะกระทบธุรกิจเรือเมล์ของท่านเป็นแน่เพราะจะต้องมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำอีกหลายสะพานตามมาอย่างแน่นอน จึงเริ่มคิดหาธุรกิจใหม่และมาลงเอยที่ธุรกิจเบียร์เพราะยังไม่มีใครทำในตอนนั้น การสร้างสะพานพุทธจึงถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของเบียร์แรกของประเทศไทย
หนุมานคาบศร คือ ตราประจำบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปรียบเสมือนสิ่งสำคัญในชีวิตของพระยาภิรมย์ภักดี เป็นขวัญสัญลักษณ์ที่จะนำพาลูกหลานไปสู่ความสำเร็จต่อไปในอนาคต
เรือนสีน้ำเงิน – ว่าว
ด้วยการแข่งว่าวเป็นกีฬานิยมในสมัยนั้น และพระยาภิรมย์ภักดีเป็นนักเล่นว่าวตัวฉกาจ ในวงการเป็นที่เลื่องลือให้การผู้ว่าวปักเป้า มีใครแวะเวียนเข้ามาในกรุงก็จะต้องขอลองท้าพระยาภิรมย์ภักดี แต่ต้องพ่ายแพ้ไปตามๆ กัน
ความรู้ความสามารถของท่านเจ้าคุณได้รับการสืบทอดตั้งแต่เยาว์วัยจากคุณพระภิรมย์ภักดีผู้พ่อ โดยสองพ่อลูกคู่นี้ถือว่าดังที่สุดในวงการแข่งว่าวในสมัยนั้น จนสมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ขอให้พระยาภิรมย์ภักดีเขียนตำราแข่งว่าวเล่มแรกของประเทศไทยออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2464 บอกวิธีการแข่งว่าวและการผูกว่าว เป็นตำราว่าวที่ถือว่าสมบูรณ์มากที่สุดก็น่าจะว่าได้
เรือนสีแดง – สิงห์แดง
พระยาภิรมย์ภักดี ได้จัดให้สาธารณชนส่งประกวดชื่อและฉลากเบียร์แรกของประเทศไทย ซึ่งได้รับกว่า 2 พันชิ้น โดย 3 เบียร์ไทยแรกที่ออกสู่สาธารณชนคือ เบียร์ตราสิงห์ เบียร์ตราว่าวทอง และ เบียร์ตราแหม่ม
เบียร์ตราสิงห์ในขณะนั้นเป็นเบียร์สีแดง ได้รับความนิยมมาโดยตลอด โดยได้ปรับเปลี่ยนจากสิงห์แดงมาเป็นสิงห์ทอง เมื่อปี พ.ศ. 2500 เนื่องจากในขณะนั้นไทยถูกล้อมรอบด้วยประเทศคอมมิวนิสต์ซึ่งใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย จึงขอให้ทางบริษัทเปลี่ยนสีของสิงห์เพื่อความเหมาะสม
เมื่อได้รู้จักที่มาของ G-Shock Custom Design กับการเปิดตัวไปแล้ว ตามเข้างานไปชมบรรยากาศภายในงานที่ Demo Club กันค่ะ โดยเริ่มจากมุมถ่ายรูปตรง Blackdrop เพื่อถ่ายเป็นที่ระลึกเห็นผู้ร่วมงานมีความสุขแล้วก็ดีใจกับคนจัดงานไปด้วยนะ ต่อด้วยมุมสะสมนาฬิกา G Shock Collections by Todd Piti ซึ่งจริงๆ แล้วมีมุมให้ถ่ายรูปอย่างมีความสุขมากมายหลายมุมเลยค่ะแต่ขอถ่ายรูปมาให้ชมบางส่วนกันนะคะ
ตามไปชมบนเวทีต่อเลยค่ะ งานที่สมาชิกมีโอกาสได้ร่วมแสดง ได้ทำตัวให้เป็นที่รู้จัก มีการสัมภาษณ์คนดังและช่วงการกุศลด้วยการประมูลเพื่อนำเงินไปให้แก่สาธารณประโยชน์ บรรยากาศแรกเริ่มจากการเดินแบบจาก นักสะสม G-Shock 30 ท่านค่ะ ส่วนตัวชอบมากเลยเป็นกันเองมาก เพลงประกอบการเดินแบบน่ารักสุดๆ เสียดายมากช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายวิดีโอมาให้ชม ขอบอกว่าทุกท่านเท่ห์มาก จัดเต็มสำหรับงานนี้สุดๆ ทำให้รู้สึกรักทุกคนเลยแม้จะไม่รู้จักกัน ทำให้บรรยากาศงานมีความเป็นกันเองมากๆ โดยมี G Shock เป็นตัวเชื่อมความรักความผูกพันมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
เดินแบบเสร็จก็ถ่ายรูปร่วมกันค่ะ แต่ละคนจัดเต็มมากๆ
ต่อด้วยพิธีกรผู้สร้างสรรค์ความสนุกของงาน พี่นัน จีระนันท์ จิระบุญยานนท์ (สุดยอดแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่น ยุค classic) และ คุณณัฐ เสตะจันทน์ ได้มีการสัมภาษณ์คนเก่ง คุณธรรมศักดิ์ วัชระเรืองรุ่ง และ คุณจารุจินต์ ไชยะกุล 2 นักดีไซน์ G Shock Custom ผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตนาฬิกาให้คุณต๊อด จนมาเป็นนาฬิกาที่น่าสะสมเป็นที่สุด คงเป็นชุดที่หายากอีกชุดนึงในโลกกันเลยทีเดียวและตรงนี้ขอชมทีมงานมากที่ได้เชิญ G-Shock Collector ชื่อดัง Mr. Sjors นักสะสมที่จุดประกายการสะสม G Shock ที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกมาร่วมงานใหญ่ในครั้งนี้และได้เจอนักสะสม G Shock ชื่อดังอย่างคุณต๊อด ปิติของไทยด้วย [ซึ่ง maamjourney ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ในช่วงบ่ายก่อนงานเริ่ม]
และอย่างที่บอกไว้ งานนี้ได้จัดให้มีการประมูล G Shock Custom Design หมายเลข 11, 22, 33, 44, 55, 66, 77, 88, 99 [9 box set + 00 [Prototype] และ Welcome to Thailand ด้วย โดยนำรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียวให้การกุศลรวมทั้งบริจาคให้กับเนปาล คุณต๊อดตั้งใจเอาเงินทั้งหมดที่ประมูลได้ไปบริจาคหมด ขอนับถือความตั้งใจสุดยอดของลูกผู้ชายคนนี้เลยค่ะ บรรยากาศการประมูลสนุกสนานมากค่ะ ประมูลสู้กันอย่างสนุก แต่ละท่านลุ้นกันอย่างมีความสุขในการให้ และงานนี้คุณต๊อด ปิติได้แจ้งยอดด้วยตัวเองผ่าน GshockCollectors ยอดบริจาคทั้งสิ้นรวม 1,164,400 บาท แยกไปช่วยแผ่นดินไหวที่เนปาล 620,000 บาท งานนี้อิ่มบุญกันถ้วนหน้าเลยค่ะ ขอบรรยายด้วยภาพต่อนะคะ
ขอขอบคุณ นักสะสม G-Shock ระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่างคุณต๊อด ปิติ GSC Thailand by Todd Piti นักสะสมตัวจริงเสียงจริง คนรักนาฬิกาพลาสติก G-shock จริง ที่มีคำนิยมเด่นชัดว่า We love G shock value, not price เรารักในคุณค่าของ G-Shock ไม่ใช่ที่ราคา และขอบคุณทีมงานที่จัดงานกิจกรรมดีๆ สำหรับ G-Shock Collector เมืองไทย ขอบอกว่าประทับใจและได้ใจไปเต็มๆ จากนักสะสม G-Shock ในเมืองไทยมากๆ เลยค่ะ