Mr. Sjors คือ ผู้ที่มีความรักใน G-Shock เป็นนักสะสม G-Shock ที่นักสะสมควรรู้จัก

Mr. Sjors คือ ผู้ที่มีความรักใน G-Shock เค้าคือนักสะสม G-Shock ที่นักสะสมควรรู้จัก เป็นคนที่จุดกระแสการสะสม G-Shock คนนึง เป็นชาวเนเธอร์แลนด์หรือชาวดัทช์ ที่ดันไปหลงใหลในนาฬิกาจากญี่ปุ่น ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปจนกลายเป็น G Shock Collector ชื่อดัง ปัจจุบันมีสะสมถึง 700 เรือนเข้าไปแล้ว เรือนที่ 700 ของเขาจะเป็นลายทหาร

Sjors Interview_Sjors in Thailand_2
Sjors in Thailand G-Shock King ระดับโลก

นับเป็นครั้งแรกที่ G-Shock King ระดับโลกที่ทุกคนยอมรับ อย่าง Mr. Sjors G-peopleland มาร่วมงาน G-shock ในเมืองไทย และเป็นครั้งแรกที่บล็อกเกอร์โนเนมตัวเล็กๆ พร้อมพี่น้องบล็อกเกอร์ได้สัมภาษณ์คนดังระดับโลกแบบใกล้ชิดแบบนี้ รู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะ ก่อนที่จะสัมภาษณ์ก็ทำความรู้จักกับ Mr. Sjors G-peopleland ตาม maamjourney ไปที่ร้าน Sab Bar ทองหล่อ 13 กันเลยค่ะ

Sab Bar_GSC_piti_Blogger
หน้าร้าน Sab Bar ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปสัมภาษณ์
Sjors in GSC Thailand by Todd Piti
คุณปิติ ภิรมย์ภักดี และ Mr. Sjors

Mr. Sjors คือใคร มาจากไหนและมาเมืองไทยทำไม [Sjors in Thailand]
ใครที่ติดตามและค้นข้อมูลเกี่ยวกับ G-shock ในระดับโลก น่าจะต้องรู้จัก Mr. Sjors คนนี้ดีเลยนะ จากเว็บไซต์ G-Peopleland.com และ 50-gs.blogspot.com Sjors เป็นทั้ง Moderator ของ WatchUSeek ใน Section ของ Casio G-Shock ตั้งแต่ปี 2003, เป็นทั้ง Admin ที่ GPeopleLand และก็ยังเป็นเจ้าของ Blog ชื่อ 50Gs อีกด้วย สรุป Mr. Sjors คือ คนที่จุดกระแสการสะสม G Shock คนนึงของโลก เป็นคนที่มีความรู้เรื่อง G-Shock มากมายจริงๆ

Sjors in Thailand_Sjors Interview_Sjors คือMr. Sjors in Thailand

เหตุผลที่ Sjors มีใจให้กับ G-Shock จริงๆ ก็เพราะ ความทนทาน เหมาะกับงานที่เค้าทำและเค้าเชื่อว่า Concept เริ่มต้นของ G-Shock เป็นเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์มากเพราะทำให้คนทั่วโลกชอบ หลงใหลและมีความรักให้กับนาฬิกาพลาสติกนี้ โดย Concept เริ่มต้นจะมี 3 อย่างก็คือ 10/10/10
1.  ต้องสามารถหล่นจากที่สูงลงพื้น โดยไม่เป็นอะไร 10 เมตร
2.  สามารถทนต่อความลึกใต้น้ำ ได้ที่ 10 Bar (ปัจจุบัน 20 Bar ได้สบายๆ)
3.  Battery ต้องใช้งานทนนานถึง 10 ปี

Sjors interviewSjors กำลังโดนพวกเรารุมสัมภาษณ์เลยค่ะ ^__^

Mr. Sjors in GSC Thailand by Todd Piti  มาเมืองไทยก็เพราะได้รับเชิญให้มาร่วมงานเปิดตัว G Shock Custom ที่สุดแสนยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในไทยที่ใช้ชื่องานว่า GSC THAILAND Presented by Todd Piti จากที่ได้สัมภาษณ์ก็จะเห็นมุมมอง ความรักใน G-Shock อย่างจริงจังไม่เแปลกใจเลยว่าเพราะความรัก G-Shock อย่างจริงจังทำให้คนๆ นึงโด่งดังไปทั่วโลก ทำให้คิดว่าเค้าเป็นนักสะสม G-Shock ที่นักสะสมควรรู้จักนะคะ และเมื่อทำความรู้จักแล้วก็ไปสัมภาษณ์มุมมองของ Mr. Sjors กันเลยค่ะ

ช่วง 15 คำถามเด็ดโดนใจคนสัมภาษณ์

1.  คิดอย่างไรจึงเริ่มสะสม และวินาทีแรกที่คิดว่าจะสะสมเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
เหตุผลแรกที่จุดประกายที่ทำให้สะสมเรือนแรกคือไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อเรือนไหน จะเอาเรือนไหนดี สุดท้าย เลยซื้อมาทั้ง 2 เรือน ซึ่งทั้ง 2 เรือนจะนำไปโชว์ในงาน GSC THAILAND Presented by Todd Piti ด้วย และแล้วหลังจากนั้น ก็ซื้อสะสมมาเรื่อยๆ เหตุผลที่ใช้เพราะการงานเค้าต้องเกี่ยวกับน้ำ โดนน้ำบ้าง ไม่ชอบนาฬิกาเป็นรอย รอบนอกทำจากคริสตัลเวลาโดนสแคชจะไม่เป็นรอย เพราะหน้าที่การงานที่ต้องทำงานเกี่ยวกับตามที่บอกซึ่งสมบุกสมบันมากเลยตัดสินใจใช้ G-Shock

G Shock Collector_5
2 เรือนแรก ที่ Mr. Sjors นำไปโชว์ในงาน ซึ่งเป็นนาฬิกาสายผ้าที่คุณต๊อดกำลังตามหาแทนเรือนแรกที่ได้มา

2.  G-Shock เริ่มขายในปี 1983 คุณเริ่มสะสมนาฬิกา G-Shock เรือนแรกของคุณ ซื้อตอนปีไหน เลือกรุ่นอะไร ?
เลือกรุ่น DW004 แบบสีน้ำเงิน ที่เป็นสายหนัง ซื้อเมื่อมิถุนายนปี 2000 ก่อนที่จะเดินทางมาเมืองไทยสะสมไว้ประมาณ 700 เรือน แล้วหยอดว่ามาเมืองไทยอาจจะมีเพิ่มอีก 4 เรือน ก็เป็นได้ [ยิ้มๆ] แต่นาฬิกาเรือนแรกที่ใช้เป็นยี่ห้อ Timex ซื้อมาได้ประมาณ 3-4 ปี ทำงานที่โรงเรียนได้ 2 วันเริ่มเห็นรอยขึ้น พอเอาไปซ่อมเจอแบตเสื่อม เลยตัดสินใจหาเรือนที่ใช้ทนทาน ไม่เป็นรอย ใช้โดนน้ำได้ มีนาฬิกามา 15 ปี ไม่เคยเป็นรอย แต่มีเรือนนึงเค้าเอามือเข้าไปในล๊อกเกอร์ แล้วทำเป็นรอยนิดหน่อย รู้สึกไม่ชอบมากๆ ที่เห็นนาฬิกาตนเองเป็นรอย ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม  แล้วมาวันนึงไปเห็นนาฬิกายี่ห้อ G Shock มีพลาสติกนูนๆ ดี น่าจะกันกระจกให้ไม่เป็นรอยได้ดี ก็เลยตัดสินใจว่าจะลองใช้ดู [ตัดสินใจซื้อใหม่] อย่างที่บอกข้อแรกว่าชอบทั้ง 2 เรือนก็เลยซื้อมา 2 เรือนเลย

สมัยก่อนที่เริ่มสะสมมันไวมากมีหลายเรือนเลยที่ซื้อจากเยอรมัน G Shock สมัยนั้นราคาค่อนข้างถูก 20 ยูโร เงินไทยราคาประมาณ 800 บาท มีการสะสมจนเกลื่อน มีหลายแบบให้เลือก แต่คนเยอรมันไม่นิยมกันเลยกลับขำว่าชาวดัทซ์ซื้อแต่ G-Shock สะสม เค้าเลยพยายามสื่อสารคนเยอรมันให้เข้าใจว่าทำไมชอบ G-shock แต่ในที่สุดก็สามารถเข้าใจกันได้เพราะความรักใน G-Shock เหมือนกัน

3.  พัฒนาการของ G-Shock ตลอดเวลาที่ผ่านมาและการสะสมเปลี่ยนไปอย่างไร ?
ช่วงปี 1997-1998 บูมมากที่เยอรมัน แต่ที่เนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ที่เนเธอร์แลนด์เมืองที่เค้าอยู่จะมีร้านเปิดเยอะ แต่ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจะมาซื้อที่นี่ ปี 1999-2000 เริ่มไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่แล้ว นาฬิกาจะเล็กลงไม่นิยมใส่เรือนใหญ่ ถือว่าเป็นไซส์แอพเพรสแล้ว มันเหมือนโทรศัพท์ เมื่อก่อนยิ่งเล็ก ยิ่งดี แต่ปัจจุบันยิ่งใหญ่ยิ่งดียิ่งเลิศ ปลายปี 2005 คือ Mr. เคนนี่ เค้าผลิตรุ่น frogman ที่อเมริกาเป็นที่ชอบของชาวฮิพฮอฟเลยเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเรื่องตัวเรือนของนาฬิกาที่ใส่

4.  ในฐานะที่คุณเป็นชาวยุโรปที่สะสม G-Shock คุณมองสังคมนักสะสม G-Shock ในยุโรปต่างจากในเอเชียหรือไม่อย่างไร ?
ที่ยุโรปไม่ค่อยมีนักสะสมเยอะเท่าไหร่ เปรียบเทียบตลาดอเมริกากับเอเชีย เค้าเปรียบตัวเองเสมือนลูกครึ่งเอเซียนะ ชอบเหมือนที่นักสะสมเอเซียชอบ สีสันยิ่งเด่นยิ่งดี แม้เค้าจะมีเรือนสีดำขาว แต่ก็ชอบสีฉูดฉาด สีเหลือง สีม่วง เค้าคิดว่าตอนนี้พฤติกรรมของคนยุโรปเริ่มเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะ

G Shock Custom Design_piti_sjors
G-Shock Collection Thailand ที่ตอนนี้กลายเป็นของสะสมที่หายากมาก

5.  เมื่อมาถึงเมืองไทย รู้สึกอย่างไรบ้างที่เห็น Collection G-Shock ของคุณต๊อด ?
Collection บางเรือนก็มีเหมือนกันนะ แต่บางเรือนไม่เหมือนกัน ทำให้เห็นเอกลักษณ์ ความชอบของแต่ละคนว่าชอบอะไร แต่บางคน สีขาวดำอย่างคุณต๊อดจะมีสีขาวดำเยอะ บางเรือนเป็นสีบ้าง การที่ซื้อคิดว่าเพราะคุณต๊อดชอบแบบนี้ ส่วนเค้าจะดูรุ่นที่ชอบและสีที่ชอบ มีข้อยกเว้นนะ ไม่ชอบเรือนสีฟ้า เพราะไม่ชอบกางเกงยีนส์ เลยไม่ซื้อเรือนสีฟ้า แต่บางเรือนเค้าซื้อสีฟ้าเพราะชอบเลยสะสมตัวละครสเมิร์บ อวตาร โดยหลักจะไม่ซื้อสีฟ้าเลย ซึ่งแต่ละคนจะชอบไม่เหมือนกันแน่นอนและโชว์ความแตกต่างของแต่ละคนได้

โดยในมุมมองของเค้า G shock ที่สะสมสามารถสื่อคาแรคเตอร์ของแต่ละคน ตัวเค้าเป็นคนสนุก ชอบสีสันคัลเลอร์ฟูล มันก็สื่ออารมณ์ได้ เป็นเหตุผลที่คาสิโอจึงออกรุ่นต่างๆ นานามามากมายก็เพราะแต่ละคนรุ่นก็เหมาะกับแต่ละคน ทุกอย่างไม่ว่าคาสิโอจะผลิตอะไรก็คงเหมาะสมกับความต้องการของคนนั้นๆ

6.  มีนาฬิกาถึง 700 เรือน เลือกใส่อย่างไร ?
อารมณ์ของเราอยากจะใส่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นาฬิกาเยอะก็ใส่เยอะ เรือนที่ใส่ประจำเวลาไปต่างประเทศจะเป็นรุ่น DW200K ใส่แล้วแสบตา เวลาใส่ก็ต้องดูตามการแต่งตัวที่จะใส่ เวลาไปหาเพื่อนจะใส่สีสัน เวลาไปงานก็จะแบบกันรอย ใส่ให้เข้ากับเสื้อผ้าที่เลือกในวันนั้นๆ

7.  คุณมองการทำ G-Shock Custom ของคุณต๊อดอย่างไรบ้าง ?
ชอบมาก เพราะเราอาจจะมีนาฬิกาที่เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเรา แต่เพราะความเป็น custom มันจะมีความหมายลึกกว่านั้น จะบ่งบอกความหมายของที่มา ยอมควักเงินที่จะซื้อมาแม้มันจะแพงและหายาก [โชว์นาฬิกาที่ใส่เป็น Custom Limited Edition ของสิงห์ มีแค่ 12 เรือนในโลก] Custom ที่มาของสิงห์ทั้ง 3 เรือนที่จะเปิดตัวในคืนนี้ หนุมานคาบศร ว่าว สิงห์แดง ก็มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาก หลงรักเลยนะ

Sjors คือ_Sjors Interview_Sjors in Thailand_1
โชว์นาฬิกาที่ใส่เป็น Custom Limited Edition ของสิงห์ มีแค่ 12 เรือนในโลก
G Shock Custom Design
G-Shock Custom Design Thailand

8.  มีรุ่นไหนที่ยังไม่เก็บไว้ใน Collection บ้าง ?
น่าจะเป็นรุ่น Murakami สีชมพู [จะบอกว่ามีการให้พวกเราทายด้วยนะ] ที่ยังไม่มีสีนี้เพราะเรื่องราวฝั่งยุโรป สมัยก่อนคนไม่ค่อยใส่สีชมพู ช่วงฮิตเล่อร์พยายามแยกสีว่าเป็นคนเพศอะไร ชาติอะไร คนที่เป็นเกย์จะต้องใส่ป้ายเป็นสามเหลี่ยมสีชมพู แต่คนยุโรปไม่ยอมเผยหรือบอกว่าชอบสีชมพู พยายามไม่อยากใส่สีชมพู แต่เรื่องนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นที่เอเซียหรอกนะ เค้าบอกติดตลกว่าผู้ชายแท้ต้องใส่สีชมพู [เรียกเสียงฮาได้เลยค่ะ]

9.  คุณคิดว่าความนิยมใน G-Shock ต่างจากความนิยมในยุโรปอย่างไรบ้าง ?
Thai collect ส่วนใหญ่จะนิยมสะสมเป็นรุ่น Custom ซึ่งต่างจากยุโรปเลยนะ

10.  ถ้าคุณจะเล่าเรื่อง G-Shock ในเมืองไทยให้กับแฟนๆ ที่ติดตามคุณ คุณจะเล่าว่าอะไร ?
เวลาที่มาเยือนมาไทย ก็จะบอกที่เนเธอร์แลนด์ว่ารู้สึกเหมือนเวลาไปญี่ปุ่น มีสังคมที่ชอบ G Shock เหมือนกัน ภาษาเดียวกัน เค้ารู้สึกดีมาก ได้เห็นคนไทยได้มีเรือนที่ชอบ เค้ารู้สึกมองแล้วสบายใจและมีความสุขที่ได้มาเห็นคนที่ชอบเหมือนกัน

11.  ถ้าเปรียบคุณเป็น G Shock คุณคือรุ่นอะไร ?
รุ่น 6900 ที่มีดวงตาที่มองตลอดเวลา มองโลกที่สดใส มีการจ้องมองอยู่ตลอด

g-shock-collector-thailand-world-piti-singha-sjors-sab-bar-casio-limitedG-Shock Custom Thailand [หนุมานคาบศร – ว่าว – สิงห์แดง]

12.  อยากทราบว่าซื้อนาฬิกาให้คนรักเรือนแรกคือรุ่นอะไร ?
เป็นรุ่น Casio Baby-G Leopard สายสีแดงลายเสือดาว ตอนที่เปิดออกมาก็ใส่กระเป๋าและเปิดออกมาเป็นรอย เธอได้แล้วก็บอกเค้าว่าไม่ต้องซื้อให้อีก [แล้วสายตาเค้าก็เศร้าเล็กน้อย]

13.  รู้สึกอย่างไรกับ G Shock ที่มีเรือนเล็กลง ?
ที่ออกมาล่าสุดเป็น Baby G ลายกุหลาบ เค้าคิดว่าแต่ละคนก็ชอบเรือนไม่เหมือน บางคนก็บอกว่าเรือนใหญ่ เรือนกลาง ซึ่งนั่นก็บอกว่าใหญ่แล้ว ก็เหมาะกับตัวเองแล้ว สำหรับเรือนใหม่ที่ออกมาก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบ

14.  มีความฝันว่าจะดีไซน์ G Shock เป็นแบบไหน ?
คงเป็นรุ่น DW6900 เป็นสายที่เหมาะกับเค้า สายเรซิน Yellow Red เหลือง แดงหรืออาจจะเป็นลายจุด เหมือนรุ่นที่ฉลองครบรอบ 25 ปี

15.  มีอะไรอยากจะฝากไปยังนักสะสม G-Shock ในเมืองไทยบ้างไหม ?
สิ่งแรก คือ ต้องซื้อของแท้ ของจริง ซื้อที่ชอบ อย่าไปซื้อตามคนอื่น ที่สำคัญต้องมีเงิน (แล้วก็หัวเราะ) [จะบอกว่าคิดเหมือนคุณต๊อดเลยค่ะ] G Shock ที่เมืองนอกได้ติดต่อเค้ามาเพื่อหาคนทำ G Shock ปลอมด้วยนะ เพราะพังง่ายทำให้แบรนด์ CASIO เสียหายด้วย

Sjors in Thailand
บรรดา blogger และ บรรยากาศการสัมภาษณ์ภายในร้าน Sab Bar
Sjors_G Shock Collector_Maam
ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ Mr. Sjors หน่อยค่ะ ขอบคุณพี่แอนที่ถ่ายให้นะคะ

เริ่มรู้จักกันแล้วนะคะว่า Mr. Sjors คือใคร และต้องขอบคุณที่ทำให้พวกเราสัมภาษณ์และได้ความรู้จาก G-Shock King ระดับโลกที่มีมุมมองการคิดต่อนักสะสมวงการเมืองไทยกันแล้วนะคะ ส่วนตัวทึ่งมากนะ อาจจะเป็นเพราะมุมมองของเค้าที่มองนักสะสม G-Shock ของเราแล้วมีความสุข นี่แหละคือความรักใน G-Shock เหมือนๆ กัน ก่อให้เกิดมิตรภาพข้ามโลก