รีวิว Omakase ในกรุงเทพ ระดับพรีเมี่ยมที่ Sushi Kappou Kitaohji
หากพูดถึง Omakase ในกรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันมีหลายร้านเลยทีเดียว แต่ร้านแบบชั้นเลิศที่มีต้นกำเนิดมาจากตลาดปลาซึคิจิ ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองโตเกียว นึกถึงร้านไหนกันบ้างค่ะ แต่เชื่อว่าต้องมีร้าน Sushi kappou Kitaohji ที่ Kitaohji มาเปิดสาขาแรกในไทยอยู่ในลำดับต้น ๆ แน่นอน โดยเป็นอาหาร Omakase ระดับพรีเมี่ยมประเทศญี่ปุ่นด้วยตำนานการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 91 ปี ในยุคโชวะที่ 2 หรือปี ค.ศ. 1927 จะว่าไปแล้วร้านเกิดก่อนตลาดปลาอีกนะนี่ ทำให้ร้านน่าสนใจขึ้นไปอีก
วัตถุดิบของ Kitaohji ใช้เฉพาะของที่ Tsukiji Yoshitomi Makuro Brand เท่านั้น ซึ่งใช้วัตถุดิบเดียวกับร้านในเครือคิตะโอจิ ทั่วประเทศ รับรองคุณภาพความสดใหม่จากท้องทะเลญี่ปุ่น ซึ่งชื่อนี้ในวงการร้านอาหารทั่วญี่ปุ่นรู้จักกันดี แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะมีสิทธิ์ได้ใช้ ดังนั้น ใน Omakase ในกรุงเทพของ Sushi kappou Kitaohji วัตถุดิบจึงต้องชั้นเลิศและคนไทยก็ได้ทานคุณภาพเดียวกัน เชื่อได้เลยว่าเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบไม่เป็นสองรองใคร
โอมากาเสะของร้าน Sushi Kappou Kitaohji ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ไม่ได้มีแค่สำหรับซูชิเท่านั้น จะมีเมนูหลากหลาย ทั้งย่าง นึ่ง ชาบู และซูชิ เป็น Omakase ที่ให้ความรู้สึกเป็นซูชิผสมไคเซกิ จุดเด่นก็คงเป็นการรังสรรค์เมนูของเชฟที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ของเชฟแต่ละคนและเราได้มอบความไว้วางใจให้เชฟได้รังสรรค์เมนูตามฤดูกาลให้อาหารมื้อนั้นเป็นมื้อพิเศษ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ที่ได้มาชิม Omakase Sushi Kappou แบบนี้ครั้งแรกเลยค่ะ
ขอออกตัวแรง ๆ ก่อนเลยว่า แหม่มเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ออกจะตื่นเต้น จำอะไรไม่ค่อยได้ (แม้จะจดไว้บ้างก็ตาม) หากผิดพลาดก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ จะรีวิวตามความเข้าใจของแหม่ม ซึ่งจริงแล้ว รีวิว Omakase จะมีความลึกซึ้งมากและครั้งนี้ก็ได้ความรู้มากมายจาก พี่นัน talontv ต้องขอบคุณมากค่ะ ก่อนไปชิมก็ชมคลิปสั้น ๆ ก่อนเลยค่ะ
วันที่ไปหัวหน้าเชฟของทางร้านคือคุณ MAENO JUNJI (เชฟมาเอโนะ) และ SHIMUTA KUNIHIKO (เชฟชิมุตะ) รับหน้าที่ดูแล และปรุงอาหารให้กับพวกเรา ซึ่งเป็นวันแรกที่ร้านมีการเปลี่ยนเมนู ปกติ 2-3 เดือนจะมีการเปลี่ยนค่ะ ซึ่งแต่ละเมนูจะไม่มีชื่อเฉพาะ
ที่นั่งก็เป็นแบบบาร์มองเห็นเชฟปรุงอาหาร เชฟจะทำให้และแนะนำ ส่วนพวกเราก็ชมเทคนิคการทำอาหารไป สำหรับคอร์สโอมากาเสะที่ทางร้านแนะนำ เริ่มจากอาหารที่มีรสเบาไปสู่รสเข้มข้น ขอสตาร์ทที่
น้ำซุป Katsuo-dashi เป็นน้ำซุปปลาแห้งสูตรพิเศษของทางร้าน ตอนเทยังพิถีพิถันเลยค่ะ เสิร์ฟมาในถ้วยทรงสูง หอมกลิ่นปลามา รสชาติอูมามิมากค่ะ
จานต่อมา จะเป็นหอยโฮตาเตะชิ้นหนาคำโต ใส่เจลลี่มาด้วย เมนูนี้โดนใจแหม่มมาก อย่างที่บอกไว้ตอนต้น วัตถุดิบดีมาก หอยสดหวานและฝีมือเชฟก็ทำออกมารับรสความอร่อยได้ดี
ปลามาไดนึ่งโรยด้วยเกาลัดนึ่งสดเช่นกัน มีวาซาบิสดวางมาด้วย ต้องทานรวมกันค่ะ อยากบอกว่ามีความหวานมันจากเกาลัดทำให้ทุกอย่างดูกลมกล่อมทีเดียว
Sashimi (3 kinds) จะมีเนื้อปลาคินเมะได Kinmedai มีความมันของปลา, เนื้อปลาชิมาอาจิ shima-aji เนื้อเด้งแน่น และเป๋าฮื้อ ฮอกไกโด สดหวาน จิ้มโชยุอย่างอร่อย แต่บางปลาแหม่มก็ไม่จิ้มนะ ซึ่งก็สดหวานอร่อยค่ะ
มาต่อด้วยเนื้อปลาจากจากแบรนด์ Yoshitomi Makuro กันค่ะ
Maguro Akami Sushi หรือซูชิหน้าปลาทูน่า ส่วนโอโทโร่ ของปลามากุโร่ชั้นดี เนื้อที่มีไขมันน้อยแต่มีความเหนียวนุ่มชัดเจน รสชาติหวาน สดชื่น ชุ่มฉ่ำ
เมนูถัดมา Otoro Sushi เป็นเนื้อส่วนท้องของ Tuna ที่มีความมันมากที่สุด คำนี้ตลบอบอวลไปทั่วปากเลยก็ว่าได้
Otoro Sushi ในแบบที่ใช้ถ่านมาทาบเพิ่มความหอมมัน ตอนทาบเสียงนี่ทำให้รู้เลยว่าต้องหอมอร่อยมาก แค่ดูลายก็รู้แล้วว่าเด็ด พอทานไปก็เคลิ้มที่สุด
Mini Uni don โดยจะมีอูนิ 2 สายพันธุ์ คือ Murasaki จาก Akita และ Bahun จาก Nemuro Hokkaido
Murasaki จาก Akita เชฟบอกว่าเป็นช่วงที่สุดยอดของอูนิแล้ว เป็นตัวอูนิสีส้มจาง จะมีความมัน ๆ ชอบจังเลย
Bahun จาก Nemuro Hokkaido เป็นตัวสีส้มเข้ม ก็มีความสดอร่อย ทานง่าย
ลองแยกกันทานเปรียบเทียบกัน แหม่มชอบสายพันธุ์ Murasaki จาก Akita มากกว่าค่ะ แต่จริงแล้วต้องค่อยผสมผสานรวมกันแล้วชิมรสชาติค่ะ
อย่างที่บอกว่าร้าน Sushi Kappou Kitaohji เป็น Omakase แนว Kappou จะมีการเสริฟอาหารอื่นนอกเหนือจาก Sushi เมนูนั้นก็คือ Hamo Shabu ชาบูปลาไหลฮาโมะ ได้เห็นการทำปลาจากเชฟทึ่งเลยอีกเมนูที่ท้าทายฝีมือเชฟมาก เชฟเก่งมากที่ทำให้ปลาฮาโมะฟูสวยตอนโดนความร้อน ส่วนรสชาติเนื้อนุ่มกรุบลิ้น หอมกลิ่นผิวส้มยูซุที่โรยมา เพิ่มความสดชื่นมาก
ตามมาด้วยเมนูนี้อลังสุดสำหรับค่ำคืนนี้สำหรับแหม่ม เชฟใช้ฟักทองเป็นภาชนะด้านในจะมีปูทาราบะย่าง หอยเป๋าฮื้อกับปูขน โรยด้วยแป๊ะก๊วย โอยชอบจัง ลงตัวสุด ๆ อูมามิ
ตามด้วย Isaki Sushi เชฟหั่นมาลายสวยมาก เบิร์นมาอย่างหอม
ปูทาราบะย่าง มีเหยาะซอสสูตรของเชฟ ใส่วาซาบิสดมาให้ด้วย เนื้อแน่น สดหวานมาก
Sushi Wagyu ซูชิวากิว เนื้อมาจากเกียวโต เชฟนำไปเบิร์นให้พอหอม ๆ แต่แอบผิดหวังเล็กน้อย เนื้อวากิวไม่ค่อยละลายในปากเท่าไหร่ค่ะ แต่ยังคงมีความหวานของเนื้ออยู่นะคะ
Kuruma Ebi Sushi ซูชิกุ้งลายเสือ ท๊อปด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ เมนูนี้เชฟตั้งใจทำมาก มีการหั่นกุ้งอย่างบรรจงและปราณีตมาก
ซูชิปลาไหลญี่ปุ่นจากฮอกไกโด เชฟนำมาเบิร์น ส่วนผู้ช่วยนะย่างสาหร่ายให้หอม ๆ เมื่อเบิร์นเสร็จเชฟก็จะทำเป็นซูชิแล้วนำมาห่อกับสาหร่าย
แล้วจะเสิร์ฟก่อนตบท้ายด้วย Miso Soup ใช้มิโซะสีเข้มที่เรียกว่า Akamiso รสมิโซะจะเข้มข้นกว่ามิโสะสีอ่อน แหม่มเรียกซุปแดงค่ะ มีความเข้มมาก
ปิดท้ายความอร่อยมื้อนี้ด้วยของหวาน เป็นผลไม้ เรียกเองว่าสลัดผลไม้ ชอบมากโดยเฉพาะเจลลี่ไวน์ขาวที่เชฟทำเอง ทานแล้วสดชื่นมาก
Sushi Kappou Kitaohji
ตั้งอยู่ที่ ชั้น G BOULEVARD 39 สุขุมวิท 39 (41 ซอย สุขุมวิท 39 (พร้อมจิตร))
เบอร์ติดต่อ 098-882-4768 (โทรจองเท่านั้นค่ะ)
Omakase ในกรุงเทพ จากร้าน Sushi Kappou Kitaohji เป็นที่น่าจดจำมาก ทุกอย่างเกือบในร้านของตกแต่งมาจากเกียวโต บรรยากาศญี่ปุ่นมาก ส่วนอาหารใครว่าโอมากาเสะจะต้องกินแต่ซูชิเท่านั้น แต่ ซูชิ คัปโปะ คือการกินแบบโอมากาเสะอีกประเภทหนึ่งที่ผสมผสานของอาหารประเภทต้ม นึ่ง ทอด ไปจนถึงของหวานทั้งหมดเข้าด้วยกัน บอกแล้วว่ามากินโอมากาเสะแบบธรรมดาโลกไม่จำ งานนี้เลยได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่เลยค่ะ และวัตถุดิบฤดูกาลนี้น่าลองถือว่าคุ้มมาก สำหรับ Omakase อีกคอร์สที่น่าสนใจ เข้าไปชมได้ค่ะ